ทำลายแหล่งเพาะพันธ์ยุงลาย |
ฝนตกขนาดนี้ ถึงคราวเทศกาลเกิดการระบาดของโรคล่ะคะ่
ที่เจอก็คือโรคไข้เลือดออกและโรคฉี่หนู
เมื่อมีการระบาดเกิดขึ้นสิ่งที่หมออนามัยตัวน้อยๆต้องทำคือออกควบคุมโรค
ใช่แล้ว ต้องไปควบคุมโรค ทำยังไงบ้างน้อควบคุมโรค
ทำอย่างนี้ค่ะ
แนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดโรคไข้เลือดออกระบาด
เมื่อเกิดมีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเกิดในชุมชนหรือหมู่บ้าน
เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการควบคุมโรคด้วยวิธีการต่าง ๆ
เพื่อให้โรคไข้เลือดออกสงบโดยเร็วที่สุด
ไม่ให้ระบาดติดต่อไปยังชุมชนอื่น หากเริ่มดำเนินการควบคุมช้า
โรคจะแพร่กระจายออกไปอย่างกว้างขวางจนเกินกำลังที่จะควบคุม โดยปกติแล้วโรคไข้เลือดออกมักจะระบาดในฤดูฝน
คือ ประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน หรือเดือนตุลาคม ของทุกปี
แต่ทั้งนี้สภาพภูมิอากาศในแต่ละท้องถิ่นมีความแตกต่างกัน
จึงทำให้ช่วงเวลาที่โรคไข้เลือดออกระบาดมีความแตกต่างกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการควบคุมการระบาด เพื่อลดการแพร่กระจายของโรค คือ การเฝ้าระวังโรค (Disease
Surveillance) ที่รวดเร็ว ถูกต้อง และครบถ้วน
เพื่อให้รู้การเกิดโรคได้โดยรวดเร็ว การเฝ้าระวังทางกีฏวิทยา (Vector
Surveillance) สำรวจค่าดัชนีลูกน้ำยุงลาย
ติดตามการเปลี่ยนแปลงประเภทแหล่งเพาะพันธุ์ที่สำคัญ (Key Container) ของยุงลาย การเฝ้าระวังเกี่ยวกับผู้ป่วยและเชื้อ โดยศึกษาแนวโน้มของโรค ชนิดของ serotype แนวทางการปฏิบัติ มีดังนี้
1.ประกาศเตือนประชาชนให้ทราบว่ามีโรคไข้เลือดออกระบาดในชุมชนนั้น
พร้อมกับให้สุขศึกษาแก่ประชาชน ให้รู้จักวิธีการป้องกันตนเองและครอบครัวไม่ให้ยุงลายกัด
ให้ความรู้วิธีปฏิบัติเมื่อเด็กป่วยหรือสงสัยว่าป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก และวิธีการควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบ้าน และขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายที่อาจมีหลงเหลืออยู่ในชุมชนให้หมดไป
การกำจัดลูกน้ำยุงลายในบ้านผู้ป่วย
และบริเวณรอบบ้านผู้ป่วยควรดำเนินการในรัศมีอย่างน้อย 100 เมตร และประเมินค่าดัชนีลูกน้ำยุงลายในพื้นที่ที่เกิดโรคหลังการควบคุม
ควรมีค่า HI
£
10
2.ใช้มาตรการเร่งด่วน
เพื่อควบคุมการระบาด คือ การพ่นเคมีกำจัดยุงตัวเต็มวัย
วิธีการนี้จะลดจำนวนยุงลายที่มีเชื้อไข้เลือดออกในชุมชน
หากพ่นเคมีต้องครอบคลุมพื้นที่ จะช่วยตัดวงจรการระบาดของโรคลงได้
ทั้งนี้ทีมควบคุมโรคต้องมีความพร้อมในการควบคุมพาหะอย่างมีประสิทธิภาพเมื่อได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วย
โดยจะสามารถปฏิบัติการได้ทันทีดำเนินการ ควบคุมแหล่งแพร่โรคภายใน 24 ชั่วโมง
เมื่อได้รับการยืนยันจาการสอบสวนผู้ป่วยโดย สสอ./สอ.
ว่าเป็นพื้นที่นี้เป็นแหล่งแพร่โรค ลักษณะการพ่นเคมีควรปฏิบัติตามการกระจายของผู้ป่วย
ดังนี้
2.1
หากเกิดมีผู้ป่วย
ควรดำเนินการควบคุมแหล่งแพร่โรค (หมู่บ้านหรือชุมชน) โดยพ่นสารเคมีในบ้านผู้ป่วย
และพื้นที่รอบบ้านผู้ป่วยในรัศมีอย่างน้อย 100 เมตร ควรพ่นอย่างน้อย 2
ครั้งแต่ละครั้งห่างกัน 7 วัน
2.2
หากเกิดมีผู้ป่วยกระจายทั่วไปในชุมชนหรือหมู่บ้าน
ควรพ่นทุกหลังคาเรือนในชุมชน และควรพ่นเคมีให้มีบริเวณกั้นกลาง (Barrier Zone) ที่ปลอดยุงรอบชุมชนนั้นด้วย หากมีหมู่บ้านอื่นอยู่ข้างเคียง
ก็ควรพิจารณาพ่นเคมีเพิ่มเติมให้แก่หมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงนั้นด้วย
3.
รายงานโรคไข้เลือดออก (DF/DHF/DSS) ทั้งรายที่สงสัยและที่ได้รับการยืนยันทันที
เพื่อการควบคุมโรค
4. พัฒนาทีมเฝ้าระวังและควบคุมโรคระดับอำเภอ
ให้สามารถดำเนินการควบคุมโรคอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการและทันเวลา
5. ให้สถานพยาบาลทุกแห่ง
เตรียมพร้อมทั้งบุคลากรและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการรักษาโรคไข้เลือดออก
เพื่อรองรับการระบาด
6. ประสานความร่วมมือและพัฒนาศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเครือข่ายในชุมชน
เช่น อาสาสมัครสาธารณสุข
ให้มีส่วนร่วมในการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกอย่างต่อเนื่อง
กิจกรรมควบคุมโรคไข้เลือดออก
1. การเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค
·
Passive
Surveillance
o
เน้นคุณภาพการรายงานที่ถูกต้อง ทันเวลา
o
การวิเคราะห์รายงาน
จากระบบรายงานการเฝ้าระวังโรค ที่ศูนย์ควบคุมโรคระดับอำเภอ จังหวัด และเขต
o
พัฒนาการใช้ข้อมูลทางระบาดวิทยา
เพื่อการเตือนภัยในทุกระดับ (การปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์ 3 ระยะ การใช้ Target line, Base line และ Median
) รวมทั้งส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการพยากรณ์และการเตือนภัยทางระบาดวิทยา
·
Active
Surveillance
o
การเฝ้าระวังผู้ป่วยมีไข้ระดับ PCU (Fever Alert) โดยให้ทีมควบคุมโรคระดับพื้นที่เข้าดำเนินการสอบสวนและควบคุม ( กำจัดทำลายแหล่ง) โรคในพื้นที่ผิดปกติ
·
Serological
Surveillance
o
สุ่มตัวอย่างผู้ป่วยส่งตรวจ โดยเฉพาะในช่วงฤดูก่อนการระบาด
เพื่อประเมินสถานการณ์การระบาดของโรค
·
Vector
Surveillance
o กำหนดมาตรการป้องกันโรคโดยให้มีการลดและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในทุกชุมชนของเขตเมือง
และทุกหมู่บ้าน
o จัดระบบการสุ่มสำรวจแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
เพื่อติดตาม กำกับ และประเมินผลการดำเนินงานตามมาตรการป้องกันโรคของพื้นที่
· การควบคุมการระบาด
o การสอบสวนโรคเพื่อหาแหล่งโรค
ในพื้นที่ระบาดและดำเนินการควบคุมการแพร่โรค
o พัฒนาศักยภาพของ
SRRT ในด้านการวิเคราะห์ข้อมูล สถานการณ์ระบาด และดำเนินการควบคุมโรคได้ตามมาตรฐานอย่างมีประสิทธิภาพ
o การพัฒนาทีมปฏิบัติการควบคุมการระบาดในพื้นที่
โดยการสอบสวน ทำลายแหล่งยุงลาย
โดยเน้นการใช้บุคลากรที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานสาธารณสุข
ร่วมกับบุคลากรท้องถิ่น
2.
พัฒนากระบวนการมีส่วนร่วมของเครือข่าย
และชุมชนในการป้องกันควบคุมโรค
§ พัฒนาศักยภาพชุมชนแบบเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน
เทคนิคประชาคมและใช้บทสรุปของประชาคม ในการป้องกันควบคุมโรค
§ สนับสนุนการสร้างชุมชนเข้มแข็งโดยดำเนินการบ้านปลอดลูกน้ำยุงลายยั่งยืนโดยใช้การประกวดและการรณรงค์เพื่อการกำจัดและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในระดับครัวเรือน
โดยใช้มาตรการทางกายภาพ ชีวภาพ และภูมิปัญญาท้องถิ่น
§ สนับสนุนกิจกรรมการป้องกันและควบคุมโรคในโรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โดยให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในโรงเรียน
ชุมชน และบ้าน
§ ประสานงานและสนับสนุนหน่วยงาน
และองค์กรปกครองท้องถิ่น
เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการด้านกฎหมายในการป้องกันควบคุมโรค
3.
การพัฒนาระบบบริหารจัดการในพื้นที่
§ ผลักดันให้เป็นนโยบายระดับจังหวัด
เพื่ออำนาจการสั่งการผ่าน ผู้ว่าราชการจังหวัด/ นายอำเภอ
§ จัดประชุมเครือข่ายระดับจังหวัด
อำเภอ อปท.เพื่อกำหนดพื้นที่เสี่ยง ทิศทาง
บทบาทและเกณฑ์การติดตามประเมินผล ให้มีการดำเนินงานแบบ Partnership
§ จัดระบบการควบคุมคุณภาพและประเมินผลการป้องกันโรค
โดยใช้ค่าดัชนีลูกน้ำยุงลาย (House Index, Container Index) และการประเมินประสิทธิภาพการควบคุมโรค
§ สรุปวิเคราะห์และแนวทางการแก้ไขของ
War
room เครือข่ายระดับพื้นที่
และการใช้ประโยชน์จากระบบการวิเคราะห์รายงาน
4.
การประชาสัมพันธ์ และแจ้งข้อมูลข่าวสาร
เพื่อสร้างความตระหนักและการให้ความร่วมมือในการป้องกันควบคุมโรค ผ่านหอกระจายข่าว
และสื่อท้องถิ่น
ก็ออกไปคว่ำลูกน้ำยุงลายไปตามประสา
ทั้งร้อนและเหนื่อย แต่เราก็สู้ๆๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น